วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2016 เทศกาลพระคริสตสมภพ
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนมกราคม 2016
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 975
บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์นอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง 1 ยน5:5-13
ท่านที่รักทั้งหลายใครเล่าชนะโลกได้ถ้ามิใช่ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระบุตรของพระเจ้าพระองค์ทรงเป็นผู้เสด็จมาโดยน้ำและโดยพระโลหิตพระองค์คือพระเยซูคริสตเจ้า พระองค์มิได้เสด็จมาโดยน้ำเพียงอย่างเดียวแต่เสด็จมาโดยน้ำและโดยพระโลหิต และพระจิตเจ้าทรงเป็นพยานถึงเรื่องนี้เพราะพระจิตเจ้าทรงเป็นความจริง พยานมีสามอย่างคือพระจิตเจ้าน้ำและพระโลหิตและพยานทั้งสามอย่างก็ตรงกันถ้าเรายอมรับการเป็นพยานของมนุษย์ การเป็นพยานของพระเจ้านั้นย่อมยิ่งใหญ่กว่าคือการเป็นพยานที่พระเจ้าทรงให้เกี่ยวกับพระบุตรของพระองค์
ผู้ใดเชื่อในพระบุตรของพระเจ้า ย่อมมีการเป็นพยานอยู่ในตัวเขาแล้ว แต่ผู้ที่ไม่เชื่อ ย่อมทำให้พระเจ้าเป็นผู้ตรัสคำเท็จ เพราะเขาไม่เชื่อการเป็นพยานซึ่งพระเจ้าประทานให้เกี่ยวกับพระบุตรของพระองค์การเป็นพยานนี้คือ พระเจ้าประทานชีวิตนิรันดรแก่เรา และชีวิตนี้อยู่ในพระบุตรของพระองค์ผู้ใดมีพระบุตรย่อมมีชีวิต และผู้ใดไม่มีพระบุตรของพระเจ้าย่อมไม่มีชีวิตข้าพเจ้าเขียนเรื่องนี้ถึงท่านทั้งหลาย ซึ่งเชื่อในพระนามพระบุตรของพระเจ้า เพื่อท่านจะได้รู้ว่าท่านมีชีวิตนิรันดร
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก5:12-16
วันหนึ่ง ขณะที่พระเยซูเจ้าประทับอยู่ในเมืองหนึ่ง ชายคนหนึ่งเป็นโรคเรื้อนเต็มตัว เมื่อเห็นพระองค์ ก็กราบพระบาทอ้อนวอนว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย พระองค์ย่อมทรงรักษาข้าพเจ้าให้หายได้” พระเยซูเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสเขา ตรัสว่า “เราพอใจ จงหายเถิด” พระองค์ทรงกำชับเขามิให้บอกผู้ใด แต่ “จงไปแสดงตนแก่สมณะ และถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสกำหนด เพื่อเป็นหลักฐานแก่คนทั้งหลายว่าท่านหายจากโรคแล้ว”
ข่าวเกี่ยวกับพระองค์กลับกระจายออกไปมากขึ้น ประชาชนจำนวนมากต่างมาฟังพระองค์และรับการรักษาโรค แต่พระองค์เสด็จไปยังที่สงัดและทรงอธิษฐานภาวนา
ข้อคิด
ผู้เป็นโรคเรื้อนต้องสวมเสื้อผ้าขาดไม่โพกศีรษะปิดหน้าส่วนล่าง ร้องตะโกนว่า “มีมลทิน มีมลทิน”และต้องแยกไปอยู่นอกค่าย (ลนต 13:45-56) ทุกคนรังเกียจเขา แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรังเกียจและดูหมิ่นตัวเอง กระนั้นก็ตาม พระเยซูเจ้ามิได้ทรงรังเกียจแต่ทรงยืนพระหัตถ์สัมผัสเขา และรักษาเขาให้หายจากโรค
เมื่อใดก็ตามที่เราสำนึกผิดและรู้สึกดูหมิ่นเหยียดหยามตนเอง เมื่อใดก็ตามที่หัวใจของเราเต็มไปด้วยความอับอายและขมขื่น อย่าลืมว่าพระหัตถ์ของพระองค์พร้อมจะยื่นมาสัมผัสและประทานชีวิตนิรันดรให้แก่เราเสมอ